สัญญาจ้าง
สัญญาเลขที่………………………………..
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ ….…………………………………………………………….………
ถนน……………………….แขวง……………………….เขต………………………….กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่………..เดือน ……………………..พ.ศ. ………….ระหว่างกรม……………………………..
โดย………………………………………………เป็นผู้แทนทำการตามระเบียบกรม ว่าด้วยการมอบอำนาจในการสั่งซื้อ และสั่งจ้างแก่หัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ ในกรม …………………… (ฉบับที่ 14)
พ.ศ. 2528 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2528 ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง
กับ…………………………………………………อยู่เลขที่……………….ถนน………………………
ตำบล/แขวง……………………อำเภอ/เขต………………………………จังหวัด………………………
ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมีข้อตกลงกันต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างผู้รับจ้างให้ทำการ……………………………………………………….
ที่ตำบล/แขวง………………………..อำเภอ/เขต………………………..จังหวัด………………………..
ให้ถูกต้องตามแบบแปลนและรายละเอียดที่แนบท้ายสัญญาทุกประการเป็นราคารวมทั้งสิ้น……………..
………………..บาท (…………………………………บาทถ้วน)
ข้อ 2. ผู้รับจ้างตกลงรับทำการตามที่กำหนดในสัญญาข้อ 1. โดยสัญญาว่าจะจัดหาสิ่งของชนิดที่ดี ใช้เครื่องมือดี และช่างฝีมือดี เพื่อประกอบการตามสัญญานี้จนแล้วเสร็จ
ข้อ 3. ในการปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว หากผู้จ้างจะต้องสั่งหรือนำสิ่งของเข้ามาเพื่อปฏิบัติตามสัญญาจากต่างประเทศ และสิ่งของนั้นต้องนำเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางเดินเรือที่มีเรือไทยเดินอยู่ และสามารถให้บริการรับขนได้ให้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ผู้รับจ้างจะต้องจัดการให้สิ่งของดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย จากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวี ก่อนบรรทุกของนั้นลงเรือที่มิใช่เรือไทย หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ ทั้งนี้ไม่ว่าการสั่งหรือซื้อสิ่งของดังกล่าวจากต่างประเทศจะเป็นแบบ เอฟ.โอ.บี. ซี.แอนด์เอฟ. ซี.ไอ.เอฟ. หรือแบบอื่นใด
ข้อ 4. ในการส่งมอบงานตามสัญญาให้แก่ผู้ว่าจ้าง ถ้าเป็นสิ่งของตามสัญญาข้อ 3. ผู้รับจ้างจะต้องส่องมอบใบตราส่ง (BILL OF LADING) หรือสำเนาในตราส่งสำหรับของนั้น ซึ่งแสดงว่าได้บรรทุกมาโดยเรือไทยหรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ให้แก่ผู้ว่าจ้างพร้อมกับการส่งมอบงานด้วย
ในกรณีที่สิ่งของดังกล่าวไม่ได้บรรทุกจากต่างประเทศมายังประเทศไทยโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ผู้รับจ้างต้องส่งมอบหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชย์นาวี ให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ หรือหลักฐานซึ่งแสดงว่าได้ชำระค่าธรรมเนียมพิเศษ เนื่องจากการไม่บรรทุกของโดยเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพาณิชย์นาวีแล้วอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ผู้ว่าจ้างด้วย
ในกรณีที่ผู้จ้างไม่ส่งมอบหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวในสองวรรคข้างต้นให้แก่ผู้ว่าจ้างแต่จะขอส่งมอบงานให้แก่ผู้ว่าจ้างก่อน โดยยังไม่รับชำระเงินค่าจ้าง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิรับมอบงานดังกล่าวไว้ก่อนและชำระเงินค่าจ้างเมื่อผู้จ้างได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนดังกล่าวแล้วได้
ข้อ 5. ในวันทำสัญญานี้ ผู้รับจ้างได้นำหลักทรัพย์เป็น……………………..เป็นจำนวนร้อยละ 10 (สิบ) ของราคาค่าจ้างเหมาตามสัญญานี้ เป็นเงินทั้งสิ้น……………………… (………………………
……………………….) มามอบไว้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา หลักประกันดังกล่าวมีอายุประกันหลังจากวันกิจการแล้วเสร็จภายในกำหนดความรับผิดชอบตามสัญญาถ้าวันแล้วเสร็จตามสัญญาต้องยึดออกไปด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ผู้รับจ้างต้องนำหลักประกันมามอบให้แก่ผู้ว่าจ้างให้มีอายุการประกันให้ครบความรับผิดชอบตามสัญญาเสมอไป
หลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบไว้ตามวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้างพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาข้อ 8 วรรคหนึ่งแล้ว
ข้อ 6. ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้าง เมื่อผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานตามสัญญานี้ไว้โดยครบถ้วนและผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานตามสัญญาข้อ 5 เรียบร้อยแล้ว
เมื่อผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างตรวจรับงานที่ส่งมอบถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแล้วผู้ว่าจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ว่าจ้างจะออกใบตรวจรับงานจ้างให้ผู้รับจ้างไว้เป็นหลักฐาน
ข้อ 7. ผู้รับจ้างสัญญาว่า จะเริ่มลงมือทำงานจ้าง ณ สถานที่ที่กำหนดภายในวันที่…………… เดือน…………….พ.ศ. ………………และให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ ภายในวันที่………………………….เดือน……………..พ.ศ. ……………..ถ้าผู้รับจ้างมิได้ลงมือทำงานภายในกำหนดดังกล่าวก็ดี หรือมีเหตุให้ผู้ว่าจ้างเชื่อได้ว่า ผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาก็ดี ล่วงกำหนดเวลาแล้วเสร็จบริบูรณ์ไปแล้วก็คือหรือผู้รับจ้างทำผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจะบอกเลิกสัญญา และมีอำนาจจ้างผู้อื่นทำงานจ้างนี้ต่อจากผู้รับจ้างได้ด้วย
การที่ผู้ว่าจ้างไม่บอกเลิกสัญญาตามความในวรรคหนึ่ง ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้างพ้นจากความรับผิดชอบตามสัญญานี้
ข้อ 8. เมื่องานแล้วเสร็จเรียบร้อยและผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้างหรือจากผู้รับจ้างคนใหม่ในกรณีผู้รับจ้างผิดสัญญาและผู้รับจ้างใช้สิทธิเลิกสัญญาตามข้อ 5. ถ้ามีเหตุชำรุดเสียหายเกิดขึ้นแก่งานจ้างนี้ภายใน 1 ปี (หนึ่งปี) นับแต่วันที่ได้รับมอบงานโดยให้นับวันที่ได้เริ่มมอบงานเป็นวันเริ่มต้น ซึ่งเหตุเสียหายนั้นเกิดจากความบกพร่องของผู้รับจ้าง จะเป็นโดยทำไว้ไม่เรียบร้อยหรือใช้สิ่งของที่ไม่ดีหรือทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชาก็ตาม ผู้รับจ้างต้องรีบทำการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่ผู้ว่าจ้างจะกำหนด โดยไม่คิดเอาค่าสิ่งของแรงงานหรือค่าใช้จ่ายอื่นใดจากผู้ว่าจ้างอีก ถ้าผู้รับจ้างบิดพริ้วไม่แก้ไขซ่อมแซมภายในกำหนด 7 วัน (เจ็ดวัน) นับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างโดยให้นับวันที่ได้รับแจ้งเป็นวันเริ่มต้นหรือแก้ไขซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จเรียบร้อยน้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างผู้อื่นให้ทำงานจ้างนั้นแทนผู้รับจ้างได้
ถ้างานที่จ้างเกิดชำรุดบกพร่องเสียภายขึ้นหลังจากระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดตามบัญญัติไว้ในประมวลแพ่งและพาณิชย์ด้วย
ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างใช้สิทธิจ้างผู้อื่นทำงานจ้างแทนผู้รับจ้างตามสัญญาข้อ 7 และข้อ 8 วรรคหนึ่ง ผู้รับจ้างจ่ายเงินค่าจ้าง ค่าสิ่งของ ค่าคุมงาน และค่าใช้จ่ายอื่นใด (ถ้ามี) ตามจำนวนที่ผู้ว่าจ้างต้องเสียไปโดยสิ้นเชิง และผู้รับจ้างยังคงต้องรับผิดชอบตามสัญญาข้อ 15. เสมือนหนึ่งงานที่ทำนั้นเป็นงานจ้างของตน
ข้อ 9. เนื่องจากพันธะซึ่งจะมีต่อกันตามสัญญานี้ ผู้รับจ้างยินยอมให้บรรดางานที่ผู้รับจ้างได้ทำขึ้นรวมทั้งโรงงาน สิ่งปลูกสร้างและสิ่งของต่าง ๆ ที่ได้นำมาไว้ ณ สถานที่ทำงานจ้าง โดยเฉพาะเพื่องานดังกล่าวในสัญญาข้อ 1 ให้กรรมสิทธิ์ตกเป็นของผู้ว่าจ้างทั้งสิ้นแต่ถ้ามีอันตรายหรือความเสียหายอย่างใด ๆ เกิดขึ้นแก่สิ่งเหล่านั้น แม้จะเกิดขึ้นเพราะเหตุสุดวิสัยประการใดก็ตาม ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดในความเสียหายเหล่านั้น และจัดหามาใหม่หรือแก้ไขให้คืนดี ทั้งนี้ภายในพันธะที่มีอยู่ในสัญญาอันยังไม่ถึงที่สุด เว้แต่ภายหลังเวลาส่งมอบ ซึ่งผู้รับจ้างจำต้องรับผิดชอบเพียงความบกพร่องและเพียงในความเสียหายที่มีขึ้นภายในระยะเวลาที่กล่าวในสัญญาข้อ 8
ในกรณีที่ผู้รับจ้างทำงานแล้วเสร็จบริบูรณ์ตามสัญญา ถ้ามีสิ่งของเหลืออยู่เท่าใดผู้ว่าจ้างยอมให้ผู้รับจ้างนำเอากลับคืนไปได้
ข้อ 10. สัญญานี้มีรูปแบบ รายการละเอียดและเอกสารแนบท้ายสัญญาดังต่อไปนี้
10.1 รายละเอียดของทางราชการกำหนดไว้เลขที่………จำนวน……………แผ่น
10.2 รายละเอียดหนังสือเสนอราคาที่ผู้รับจ้างเสนอไว้ จำนวน ………………แผ่น
10.3 …………………ฯลฯ…………………………………………………
และให้ถือว่ารูปแบบ รายการละเอียดและเอกสารแนบท้ายสัญญาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา
ข้อ 11. ผู้รับจ้างสัญญาว่า จะไม่ทำงานจ้างนี้โดยไม่มี แบบ รูป และรายละเอียดที่ถูกต้องเป็นอันขาด ทั้งจะรักษาแบบ รูป และรายละเอียดนี้ไว้ ณ สถานที่ทำงานจ้างให้เรียบร้อยและโดยเปิดเผยเพื่อให้ผู้ว่าจ้าง หรือกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานตรวจได้ทุกเวลา
ข้อ 12. ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะไม่เอางานทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งสัญญานี้ไปให้ผู้อื่นรับจ้างช่วงอีกทอดหนึ่ง โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้าง แต่ทั้งนี้ผู้รับจ้างยังต้องรับผิดชอบงานที่ให้ช่วงไปนั้นทุกประการ
ข้อ 13. ผู้รับจ้างจะต้องควบคุมงานที่รับจ้างนี้อยู่ตลอดเวลาที่งานยังไม่แล้วเสร็จหรือจะมอบหมายให้ผู้อื่นเป็นผู้ควบคุมงานแทนตนก็ได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ผู้รับจ้างแจ้งชื่อผู้ได้รับมอบหมายให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นหนังสือ และผู้ควบคุมงานแทนผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทนผู้รับจ้าง คำสั่ง ต่าง ๆ ซึ่งได้แจ้งแก่ผู้แทนของผู้รับจ้างถือได้ว่าได้แจ้งแก่ผู้รับจ้างแล้ว
ข้อ 14. ในกรณีที่ผู้รับจ้างตั้งตัวแทนไปควบคุมงานตามข้อ 13. ถ้าผู้ว่าจ้างขอให้เปลี่ยนตัวแทนใหม่ ผู้รับจ้างยินยอมเปลี่ยนตัวได้ทันที โดยจะไม่เรียกค่าเสียหาย หรือถือเป็นเหตุยึดวันทำการออกไป ถ้าผู้รับจ้างจะเปลี่ยนผู้ควบคุมงาน ต้องแจ้งชื่อผู้นั้นให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นหนังสือทุกครั้งด้วย
ข้อ 15. ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุ หรือภยันตราย ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการงานของผู้รับจ้างเอง และต้องรับผิดชอบในเหตุเสียหายอันเกิดแก่ทรัพย์สินของผู้ว่าจ้างซึ่งมีอยู่ในบริเวณที่ทำการจ้างนี้ โดยการกระทำของคนงาน ช่าง หรือบริวารของผู้รับจ้างด้วย
ข้อ 16. ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายเงินค่าจ้างแก่ลูกจ้างของตนตามอัตราค่าจ้างและกำหนดเวลาที่ผู้รับ
จ้างและลูกจ้างได้ตกลงหรือสัญญากันไว้
ถ้าผู้รับจ้างไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามวรรคหนึ่ง ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างเอาเงินค่าจ้างที่ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ผู้รับจ้าง จ่ายให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างได้ และให้ถือว่าเงินจำนวนที่จ่ายไปนี้เป็นเงินค่าจ้างที่ผู้รับจ้างได้รับไปจากผู้ว่าจ้างแล้ว
การที่ผู้รับจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของตนตามวรรคสอง นอกจากยอมให้ผู้ว่าจ้างจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของผู้รับจ้างแล้ว ยังให้ถือว่าผู้รับจ้างผิดสัญญานี้ด้วย และผู้ว่าจ้างจะยกเลิกสัญญาเสียทั้งหมดก็ได้
ข้อ 17. ถ้าผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้างหรือควบคุมงานไว้ประจำ ณ ที่ทำการจ้างหนี้ในเวลาที่ผู้รับจ้างเตรียมการหรือกำลังทำงานจ้างนี้อยู่ก็ดี กรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานมีสิทธิจะเข้าไปตรวจการงานทุกเวลา ผู้รับจ้างหรือผู้แทนของผู้รับจ้างจักต้องให้ความสะดวกและช่วยเหลือตามสมควร
การที่คณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรมการตรวจการจ้างหาทำให้ผู้รับจ้างพ้นความรับผิดชอบตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดไม่
ข้อ 18. ก่อนหรือระหว่างทำงานจ้างอยู่ ถ้าปรากฏว่าแบบรูปหรือรายละเอียดต่อท้ายสัญญานี้คลาดเคลื่อนผิดไปอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้าง และถ้าคำวินิจฉัยนี้ถูกต้องกับรายงานอันใดอันหนึ่งที่ปรากฏในแบบรูปแล้ว ผู้รับจ้างต้องถือว่าเป็นอันเด็ดขาด ถ้าอันหนึ่งอันใดมิได้ระบุไว้ในรายการละเอียด แต่เป็นการจำเป็นจะต้องทำงานเพื่อให้เสร็จบริบูรณ์ถูกต้องตามแบบรูป ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะจัดการ ๆ ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ รายการที่คลาดเลื่อนหรือมิได้ระบุไว้ดังกล่าวจะต้องมิใช่ส่วนที่เป็นสาระสำคัญ
ข้อ 19. กรณีที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้งกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้าง ผู้รับจ้างยอมให้กรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมมีอำนาจตรวจและควบคุมให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาแบบรูปและรายการละเอียด โดยให้อำนาจสั่งเปลี่ยนแปลง แก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดทอนกิจการจ้างนี้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา แบบรูปแบบและรายการละเอียดเติม หรือตัดทอนกิจการจ้างนี้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา แบบรูปแบบและรายการละเอียดและถ้าผู้รับจ้างขัดขืนก็ให้คณะกรรมการตรวจการจ้างหรือผู้ควบคุมงานแทนคณะกรรมการตรวจการจ้างมีอำนาจสั่งหยุดกิจการนั้นไว้ชั่วคราวได้ และความล่าช้าในกรณีเช่นนี้ผู้รับจ้างจะถือเป็นเหตุขอยืดวันทำการออกไปมิได้
ข้อ 20. ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะทำการแก้ไขหรือเพิ่มเติมหรือลดงานจากแบบรูปและรายการละเอียดตามสัญญาได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องเลิกสัญญานี้ การเพิ่มเติมหรือลดงานจะต้องคิดและตกลงราคากันใหม่ และถ้าต้องการเพิ่มหรือลดเงินหรือยืดเวลาออกไปอีกก็จะได้ตกลง ณ บัดนั้น
ข้อ 21. ภายในกำหนดเวลาตามสัญญานี้ ถ้ามีเหตุดังต่อไปนี้เกิดขึ้น
(1) เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้าง
(2) เหตุสุดวิจัย
(3) เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
ผู้รับจ้างต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ว่าจ้างทราบเป็นหนังสือภายใน 15 วัน (สิบห้าวัน) นับแต่เหตุนั้นได้สิ้นสุดลง หากมิได้แจ้งภายในเวลาที่กำหนดผู้รับจ้างจกมากกล่าวอ้างเพื่อขอขยายอายุสัญญาในภายหลังมิได้ หากผู้ว่าจ้างเห็นว่ามีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ผู้ว่าจ้างจะขายอายุสัญญาให้เท่ากับเวลาที่เหตุการณ์นั้นเป็นอุปสรรคต่อการส่งมอบงานโดยผู้รับจ้างต้องมีคำขอขยายอายุสัญญาเป็นหนังสือพร้อมด้วยเหตุผลและเอกสารสนับสนุนว่า ได้มีความล่าช้าเกินขึ้นเพราะเหตุดังกล่าว
ข้อ 22. ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบงานล่าช้ากว่าวันแล้วเสร็จตามสัญญา แต่ผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญา ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังต่อไปนี้ คือ
1. ปรับผู้รับจ้างเป็นรายวัน วันละ ……………บาท (……………………………….)
นับแต่วันที่ล่วงเลยกำหนดวันแล้วเสร็จตามสัญญาจนถึงวันที่งานแล้วเสร็จบริบูรณ์
2. เรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่ผู้รับจ้างทำงานล่าช้า (ถ้ามี)
3. เรียกค่าใช้จ่ายในการควบคุมงาน ในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างผู้ควบคุมงานั้นอีกต่อหนึ่ง
นับแต่วันที่ล่วงเลยกำหนดวันแล้วเสร็จตามสัญญา จนถึงวันที่ผู้รับจ้างส่งมองานโดยคิดเป็นรายวัน วันละ …………………….บาท (……………………………….)
ในระหว่างที่มีการปรับนั้น ถ้าผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 23 นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วย
ข้อ 23. ถ้าผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ริบหลักประกันสัญญาดังกล่าวในสัญญาข้อ 5
2. ยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกเอาค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเพราะจ้างบุคคลอื่นทำการนี้ต่อไปจนงานแล้วเสร็จบริบูรณ์
3. เรียกเอาค่าใช้จ่ายในการควบคุมงาน ในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างผู้ควบคุมงานนั้นอีกต่อหนึ่งจนแล้วเสร็จบริบูรณ์
4. เรียกค่าเสียหายอันพึงมีจากผู้รับจ้าง
ข้อ 24. เมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว บรรดางานที่ผู้รับจ้างได้ทำขึ้นและสิ่งของต่าง ๆ ที่ได้นำมาไว้ ณ สถานที่ทำงานจ้างนั้น โดยเฉพาะเพื่องานจ้างดังกล่าวผู้รับจ้างยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง โดยผู้รับจ้างจะเรียกค่าตอบแทนและค่าเสียหายใด ๆ ไม่ได้เลยและผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิระงับการจ้างที่ค้างชำระสำหรับงานที่ทำไปแล้วเพื่อเป็นการชำระหนี้
ในกรณีที่ต้องจ้างบุคคลอื่นทำงานที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ หากปรากฏว่าเงินค่างานที่เหลือจ่ายไม่พอสำหรับการทำงานรายนี้เป็นจำนวนเท่าใด ผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินจำนวนนั้นจากค่าจ้างที่ค้างชำระตามวรรคหนึ่งและยอมรับผิดชดใช้เงินจำนวนที่ยังขาดอยู่นั้นจนครบถ้วน
หากมีเงินค่าจ้างตามสัญญาที่หักไว้จ่ายเป็นค่าปรับและค่าเสียหายแล้ว ยังเหนืออยู่อีกเท่าใดผู้ว่าจ้างจะคืนเงินให้แก่ผู้รับจ้างหมด
ข้อ 25. ถ้าผู้รับจ้างหรือบริวารของผู้รับจ้างได้ก่อสร้างโรงงานหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ลงในบริเวณที่รับจ้างก็ดี หรือทำให้เป็นหลุมเป็นบ่อก็ดี ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะจัดการรักษาความสะอาดตลอดเวลาที่ทำงานจ้าง และเมื่องานจ้างแล้วเสร็จจะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและกลบเกลื่อนพื้นดินให้เรียบร้อย และขนเศษอิฐ เศษไม้ และสิ่งที่รกรุงรังออกไปให้พ้นบริเวณที่รับจ้างพร้อมทั้งทำความสะอาดบริเวณที่รับจ้างและสิ่งปลูกสร้างให้เรียบร้อยอยู่ในสภาพที่ผู้ว่าจ้างใช้การได้ทันที
สัญญานี้ได้ทำขึ้นสองฉบับ มีข้อความเป็นอย่างเดียว คู่สัญญาได้อ่านเข้าใจข้อความโดยละเอียดตลอดแล้วจึงได้ลงลายมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี) ไว้เป็นสำคัญต่อหน้าพยานและเก็บไว้ฝ่ายละฉบับ
ลงชื่อ………………………………….ผู้ว่าจ้าง
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….สถาปนิก
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….พยาน
(………………………………….)
ลงชื่อ………………………………….พยาน
(………………………………….)